TRAVEL THE SERIES
CRASH LANDING ON YOU
Travel the series… ไม่ได้จะพาเที่ยวยาวหลายตอนเป็นซีรี่ย์ แต่จะพาคุณเที่ยวไปในซีรี่ย์ต่างหากล่ะ!
สหายผู้กอง!
ทั้งเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ทั้งนักแสดงหนุ่มๆ ที่ขยันสร้างสีสัน พกความฮ็อตน่ารักน่าหยิกมาเต็มจอ ใครดูเรื่องนี้แล้วโดนแก๊งค์สหายตก คือดูผิดเรื่องแล้วแน่ๆ เลยล่ะค่ะ 555+
Crash landing on you หรือปักหมุดรักฉุกเฉิน เป็นซีรี่ย์ว่าด้วยเรื่องราวความรักของทหารหนุ่มจากเกาหลีเหนือ และหญิงสาวจากเกาหลีใต้ เปิดเรื่องมาด้วยนางเอกเล่นเครื่องร่อนแล้วโดนพายุพัดตกไปพื้นที่ของฝั่งเกาหลีเหนือที่พระเอกปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่ใครก็รู้ใช่ไหมคะว่าเหนือกับใต้เค้าไม่สุงสิงกัน พระเอกกับแก๊งค์สหายเลยต้องหาทางส่งนางเอกกลับเกาหลีใต้อย่างปลอดภัย และเรื่องราวความรักก็เริ่มก่อตัวจากจุดนั้น
แต่…บทความนี้คุณๆ ทั้งหลายจะไม่ได้ไปโซนนั้นกันหรอกนะคะ เพราะนอกจากในเกาหลีแล้ว ซีรี่ย์เรื่องนี้ยังบินไปถ่ายที่โลเคชั่นสวยๆ ชวนฟินที่นอกเกาหลีด้วย
และที่นั่นก็คือ
สวิตเซอร์แลนด์ !
ISELTWALD
หนึ่งในฉากที่สวยงามและประทับใจจนน้ำตาซึมของเรื่องนี้ถ่ายทำที่หมู่บ้าน Iseltwald ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) นั่นเองค่ะ
หมู่บ้าน Iseltwald… หมู่บ้านขนาดเล็กที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีร้านอาหารไม่กี่ร้าน แต่ธรรมชาติของที่นี่คือ the true nature ค่ะ เหมาะกับคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนหย่อนใจ คนที่ชื่นชอบธรรมชาติอย่างแท้จริง เรียกว่าหันหน้าทะเลสาบหันหลังคือเทือกเขา
กิจกรรมที่มีคือการล่องเรือชมทะเลสาบ หรือไม่จะหาเช่าเรือคายัคพายเล่นในทะเลสาบเองก็ได้ค่ะ 🙂
Iseltwald จะไม่คึกคักเหมือนเมืองท่องเที่ยวเหมือนกรินเดอวาลด์หรืออินเทอร์ลาเกนนะคะ แต่หากอยากพักผ่อนสงบๆ จะเลือกมาพักที่นี่ แล้วค่อยไปเที่ยวที่อินเทอร์ลาเคนก็ได้ เพราะอยู่ห่างกันแค่ไม่ถึง 15 นาทีเอง
อ้อ! แอบกระซิบว่าหมู่บ้านอินเทอร์ลาเคนกับกรินเดลวาลด์นี้ ก็คือสถานที่พักยอดฮิตก่อนจะไปเที่ยวยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเขาที่เป็น ‘A must’ ของสวิตเซอร์แลนด์นั่นเองจ้า
FIRST-SCHRECKFELD
First-Schreckfeld คือเส้นทางเทรคกิ้งซึ่งเป็นทางเดินยาวประมาณ 2.3 กิโลเมตร ในพื้นที่ของหมู่บ้านกรินเดลวาลด์ ในช่วงซัมเมอร์มีกิจกรรมผจญภัยให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น First Flyer, First Glider, Mountain Cart หรือ Trottibike Scooter
‘First Flyer’ จะพาลอยไปบนอากาศ ไม่ว่าหันซ้ายหันขวา มองบนมองล่าง รอบตัวคืออากาศโล่งๆ ตลอดระยะทางความยาว 800 เมตร ด้วยความเร็ว 84 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณจะได้สัมผัสคำว่าอิสระอย่างแท้จริง
เอ้า! แต่เค้าไม่ได้ปล่อยให้เราโล่งแบบทิ้งตัวนะคะ 555+ อุปกรณ์เซฟตี้คือมั่นใจได้ค่ะว่าได้มาตรฐานระดับสากลและปลอดภัยหายห่วงค่ะ
‘First Glider’ คือกิจกรรมที่จะให้เราซ้อมเป็นนกค่ะ งงสิงง… ซ้อมเป็นนกจริงๆ เพราะเจ้า First Glider นี้คือนกอินทรีย์ที่จะพาเราบินร่อนผ่านวิวภูเขาและทิวทัศน์แบบ Bird eye view นั่นเองจ้า
‘Mountain Cart’ คือส่วนผสมระหว่างรถโกคาร์ทกับสเลด ถ้านึกภาพไม่ออกขอให้นึกถึงเวลาเราไปหมู่บ้านบนดอย แล้วเค้าจะมีรถเตี้ยๆ เล็กๆ ให้เราเล่นลงมาจากเนินเขา นั่นแหละค่ะ…เกือบเหมือนกันเด๊ะ แต่ๆๆ ที่ไม่เหมือนคืออันนี้มีระบบเบรคนะคะ 555+ และตลอดระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เชื่อเถอะว่าจะอิ่มกับทัศนีย์ภาพสองข้างทางแน่ๆ
ส่วนเจ้า ‘Trottibike Scooter’ นี่ก็คือลูกผสมของสกูตเตอร์กับจักรยานค่ะ คือรูปทรงจักรยานแต่ไม่มีที่นั่งปั่นเพราะถูกแทนที่ด้วยแผ่นยืนเหมือนสกูตเตอร์ ข้อดีคือเวลาไปตกหลุมตกหล่มอะไรตรงไหน มั่นใจว่าก้นไม่ระบมแน่ๆ ค่ะ… เอ้อ เค้าก็ช่างคิดเนอะ
นี่เป็นกิจกรรมชิลๆ ในช่วงซัมเมอร์นะคะ จะอยู่ประมาณเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม พอล่วงเข้าวินเทอร์แล้วที่นี่จะขาวโพลนไปด้วยหิมะ กิจกรรมส่วนใหญ่จะเป็นสกีและสโนว์บอร์ดค่ะ
Panorama Bridge Sigriswil
จำกันได้ไหมคะ นี่คือฉากที่นางเอกกำลังบันทึกเสียงตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย เพราะคิดที่จะจบชีวิตตัวเองที่สะพานนี้ แต่ยังค่ะ… โดนขัดเพราะมีคู่รักมาขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย
แหมมม ก็วิวมันสวย น่าเก็บไว้เป็นภาพประทับใจมากกว่าจะกระโดดลงไปจริงๆ นี่นา
สะพานนี้คือ Sigriswil Panorama Bridge ค่ะ เป็นสะพานแขวนทางเท้ายาว 340 เมตร สูง 182 เมตร ที่ทอดข้ามผ่าน Gummi Gorge เชื่อมระหว่างหมู่บ้าน Aeschlen กับ Sigriswil และเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวรอบๆ ทะเลสาบธุน (Lake Thun)
สูง เสียว แต่สวย!
วิวพาโนรามมาจากบนสะพานคืออะไรที่ว้าวมาก เพราะนอกจากจะเห็นทะเลสาบสีครามเป็นประกายวิบวับแล้ว ยังมีแบ็คกราวน์สวยๆ เป็นเทือกเขาเบอร์นีสด้วย
Munster Bridge, Zurich
เข้ามาโลเคชั่นในเมืองกันบ้างเนอะ 555+
Munster Bridge (Münsterbrücke) คือชื่อของสะพานแห่งนี้ค่ะ ถ้าให้อ่านออกเสียงคงจะได้ประมาณ
มึนสเตอร์บรึคเคอ…
นี่คือสะพานที่นางเอกไปยืนมองแม่น้ำ แต่ไม่ใช่นางเอกอย่างเราๆ ก็ไปยืนมองแม่น้ำได้เหมือนกันนะคะ
สะพาน Munster Bridge หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งก็คือ Helmhausbrucke เป็นทั้งสะพานเดินเท้าและสะพานข้ามแม่น้ำลิมมัต (Limmat) ซึ่งไหลผ่านใจกลางเมืองซูริค นอกจากนี้ยังเป็นสะพานเชื่อมวิหารสำคัญซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของเมืองก็คือ วิหาร Grossmunster ที่มีเอกลักษณ์หอคอยคู่ในศิลปะสไตล์โรมันเนสก์ และวิหาร Fraumunster ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของกระจกสีชากาลบานใหญ่ทั้ง 5 บาน
Lindenhof
ในเรื่องเปิดมาด้วยม้านั่งเปล่าๆ ที่มีฉากหลังเป็นวิวเมือง ดูแล้วหากได้ไปนั่งเล่นหรือเดินเล่นคงชิลไม่น้อย
โลเคชั่นนี้คือ หัวใจของเมืองซูริค… Lindenhof
ย่านเก่าแก่นี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซูริค เป็นหนึ่งในสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมบรรยากาศของบ้านเรือนที่มีความวินเทจให้กลิ่นอายของยุคกลาง นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยตรอกซอกซอยทางเดินหิน มีร้านค้าร้านบูทีคเต็มไปหมด สินค้าแฮนเมดน่ารักๆ ก็เต็มมม ไปหมด เพราะแต่เดิมที่นี่คือแหล่งรวมช่างฝีมือค่ะ ดังนั้นพูดเลยว่าครบด้วยคุณภาพ
เดินขึ้นมาด้านบนนิดๆ จะเป็น Lindenhof Hill ที่ตั้งอยู่ในส่วนของ Zurich Altstadt หรือ เมืองเก่าซูริค ด้านบนนี้เป็นคล้ายสวนสาธารณะ ชาวเมืองนิยมมานั่งพักผ่อน เดินเล่น หาซื้ออะไรมานั่งกินและมองวิวมุมสูงของเมืองค่ะ
หากใครมีเวลาเดินชิลๆ สามารถเดินเล่นจากจุดนี้ เรื่อยไปยังสะพาน Munster Bridge แวะชมวิหารทั้งสองที่ได้แบบสบายๆ นะคะ เพราะสถานที่อยู่ใกล้กันชนิดที่เดินห้านาทีก็ถึง แถมสองข้างทางยังมีอะไรให้ดูเพลินๆ อีกต่างหาก ชิล!
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เห็นแล้วอยากไปบ้างเลย ปกติเวลาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ก็จะวนเวียนอยู่สถานที่ยอดฮิตอย่างยอดเขาจุงเฟรา กลาเซีย 3000 ยอดเขาติสลิส หรือแมทเทอร์นฮอร์น จริงๆ แล้วสถานที่เหล่านี้อยู่ไม่ห่างไกลกับที่เที่ยวยอดฮิตเท่าไหร่เลยค่ะ ลองปรับโปรแกรมสักนิด หมุนมาเจออะไรใหม่ๆ จะได้เห็นว่ามีอีกหลายมุมของสวิตเซอร์แลนด์ให้เราค้นหานะคะ
ถ้าหาเองมันเหนื่อยไป ก็ไม่เป็นไรเลยค่ะ ลุกซ์ฯ ยินดีช่วยหานะคะ 🙂
มาเที่ยวกับเราสิคะ
Writer: เอ็มดับเบิลโอเค
Credit Picture: Netflix, Jungfrau.ch, Myswitzerland, Pinterest_Quinns, Zurich Tourism, Wildlensbyabrar, tcompanion
Ref:
www.kpopmap.com
www.wildlensbyabrar.com
www.jungfrau.ch
www.interlaken.ch