Scorpius หรือ ราศีพิจิก
(16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม)

ราศีพิจิกเป็นราศีที่ 8 ตามตำราโหราศาสตร์ มีสัญลักษณ์เป็นแมงป่องตามชื่อราศี Scorpius (อังกฤษ) หรือ Scorpio (ละติน)

ว่ากันว่า… ในดวงตาของชาวพิจิกนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ บางครั้งก็ดูลุ่มลึกคาดเดาได้ยาก บางครั้งก็นิ่งเฉยจนเหมือนเย็นชา บางครั้งก็วิบวับเหมือนมีมนต์สะกด ชาวราศีนี้ไม่ค่อยชอบพูดอะไรมากค่ะ ไม่ค่อยแสดงนิสัยออกมาให้คนอื่นเห็นด้วย เพราะเขาควบคุมสีหน้าและอารมณ์ได้ดีเป็นที่หนึ่งเลยล่ะ

แต่เชื่อไหมคะว่าภายใต้ความลึกลับคาดเดายากนั้น หนึ่งในราศีสายลุยต้องยกให้กับชาว Scorpius หรือชาวพิจิก ไปเลยค่ะ!

เดินป่า ปีนเขา กิจกรรมลึกลับซับซ้อน ชวนพิศวงทั้งหลายแหล่ สถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ค้นหาสิ่งใหม่ อะไรที่ท้าทายขีดจำกัดตัวเอง ขอให้บอก ชาวพิจิกเขาพร้อมเสมอ

ลุกซ์ เลือก แล้ว!
…
..
.

กุยบุรี

ถ้าให้พาชาวพิจิกออกเที่ยวโลกกว้าง แน่นอนว่าสถานที่นั้นต้องมีความแอดเวนเจอร์ในระดับหนึ่ง มีความน่าตื่นตาตื่นใจให้สำรวจ ค้นหาและท้าทายขีดความสามารถของตัวเอง อย่างเช่นไปตกปิรันย่าในป่าอเมซอน ไปผจญภัยโลกตะลึงที่มาดากัสการ์ หรือไป waka waka ที่แอฟริกาตามหาบิ๊กไฟว์

หูยยยย แค่ฟังก็ตาลุกวาว อยากมี once in life time แล้วใช่ไหมคะ

แต่หากสถานที่เหล่านั้นไกลไป ลองมาหาอะไรใกล้ๆ ไหมคะ

กุยบุรี…ซาฟารีเมืองไทย

ณ อำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากหัวหินไปไม่ไกล กุยบุรีแห่งนี้ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแหล่งดูช้างป่าที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย!

‘บ้าน’ ของเหล่าช้างป่ากว่า 250 ตัว และสัตว์ป่าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เก้ง กวาง เสือดำ เสือดาว นกเงือก สมเสร็จ วัวแดง จิ้งจอก…

อ้อ! ที่นี่ กระทิงเด็ด!

ว่ากันว่าดูช้างให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูที่แม่… ณ จุดนี้ต้องขอเปลี่ยนแล้วล่ะค่ะ ดูช้างให้ดูที่นี่ ดูให้ดีเพราะจุดนี้ดีที่สุดในเมืองไทย!

อวยไปอีก 5555+ แต่ของเขาดีจริงค่ะ ‘อุทยานแห่งชาติกุยบุรี’ ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมช้างป่าและกระทิงที่ดีที่สุดของเมืองไทยเลยนะ

กุยบุรีเรียกได้ว่าเป็น ‘ป่าพิเศษ’ คือเป็นผืนป่าในโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี การเดินทางท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จะต้องใช้รถที่ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่าของทางอุทยานเตรียมไว้พร้อมกับคนขับรถและไกด์ท้องถิ่นที่ชำนาญพื้นที่ ไม่อนุญาตให้ขับรถส่วนตัวไปเองเพราะสัตว์ป่าค่อนข้างเยอะ กลัวจะเป็นอันตราย… หมายถึงกลัวน้องๆ สัตว์เหล่านั้นเป็นอันตรายนะคะ ไม่ใช่เรา 5555+ (ล้อเล่นน่า ห่วงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วยแน่นอนค่ะ)

ทัวร์ซาฟารีจะเปิดให้เข้าชมได้ช่วงเวลา 14.00 น. – 18.30 น. ซึ่งพูดเลยว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติค่ะ ส่วนรถที่ทางอุทยานใช้คือ รถกระบะที่มีราวเหล็กกันตกด้านหลัง คันหนึ่งนั่งได้ประมาณสิบคน เปิดประทุนขับสวยๆ ไปตามทางธรรมชาติ บรรยากาศเย็นนิดๆ คือดี ยิ่งถ้าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวที่อากาศชื้นหน่อย กลิ่นของต้นไม้ใบหญ้า โอโซนในป่า นี่คือการฮีลร่างกายขั้นเทพ!

สัตว์ป่าเด่นๆ ของที่นี่คือช้างและกระทิงค่ะ

พี่ช้างคือพี่ใหญ่ ไม่ต้องให้บอกใช่ไหมว่าทำไมถึงได้ฉายานี้มา แน่นอนเพราะว่านางตัวใหญ่มากกก แถมฉลาดมากอีกด้วย ระหว่างที่รถขับไป ร้อยเปอร์เซ็นต์จะต้องเจอพี่ใหญ่ออกมาเดินเล่นแกว่งหางให้เห็น เดินข้างๆ บ้าง เดินตัดหน้าบ้าง บางทีมาตัวสองตัว บางทีมาเป็นโขลง
เอาเลยจ้า เอาที่พี่สบายใจเลยจ้า ที่นี่บ้านของพี่ค่ะ!

กระซิบค่ะ… เวลาพี่ใหญ่เค้ามาตัดหน้าแล้วเข้ามาใกล้ๆ บางทีก็ทำเอาใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เลิ่กลั่กว่ายังไงดี ซึ่งพี่ไกด์ที่นอกจากจะบอกเล่าเรื่องราวระหว่างทางแล้ว ยังมีอีกหน้าที่คือสังเกตท่าทางและอารมณ์ของพี่ใหญ่ค่ะ ว่าอารมณ์ดีไหม หรือเราควรสับเกียร์ถอยให้ไกลจากนาง
ตื่นเต้นดีค่ะ ชาวพิจิกก็ต้องจิกมือแน่นอ่ะพูดเลย!

เส้นทางซาฟารีจะผ่านธรรมชาติสองข้างทางลึกเข้าไปด้านใน พื้นดินเป็นลูกรังยาวๆ ไป ถ้าฝนเพิ่งตกหมาดๆ เรียกว่าโชคดีค่ะ แต่ถ้าฝนไม่ตก ก็โชคดีเหมือนกันเพราะเราจะได้ของแถม… เป็นไฮไลท์สีแดงเกาะเส้นผม ใครไม่อยากผมแดงแนะนำว่าให้พกหมวกอาบน้ำที่โรงแรมติดไปเผื่อไว้เลยค่ะ

จุดหมายปลายทางคือ ‘จุดชมช้างป่าและกระทิง’ เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของการเดินทาง จุดนี้เป็นบริเวณทุ่งหญ้ากว้างๆ มีแบ็คกราวนด์เป็นภูเขาทับซ้อน เราจะเห็นครอบครัวพี่ใหญ่ออกมาหากินตามธรรมชาติ นำหน้ามาด้วยช้างอาวุโส ขนาบข้างด้วยช้างพี่เลี้ยงคอยระแวดระวังให้กับลูกฝูง มีพี่กระทิงพาฝูงออกมาเล็มหญ้าชิลๆ ช้างกับกระทิงเค้าชอบออกมาหากินด้วยกันเวลาพี่ช้างดึงใบไม้สูงๆ ลงมา พี่กระทิงเค้าก็ได้อานิสงส์ไปด้วย แล้วคู่หูนี่เค้ายังช่วยเหลือกันด้วยนะคะเพราะช้างหูดี ส่วนกระทิงก็จมูกดี
แต่ใดๆ นั้น…น่าอิจฉาชีวิตสโลว์ไลฟ์ของเหล่านางยิ่งนัก!

 

นอกจากจุดนี้แล้ว ระหว่างทางยังมีจุดอื่นๆ ที่แวะให้ชมสัตว์ป่าอีกหลายจุดเลยค่ะ และนอกจากพี่ใหญ่แล้ว วิวของอุทยานแห่งชาติกุยบุรีก็อลังการไม่เบาเลยล่ะค่ะ เป็นสวรรค์ของตากล้องสายแลนด์สเคป!

เหนือสิ่งอื่นใดหากลองหลับตาฟังเสียงต้นไม้ใบหญ้า ฟังเสียงการเคลื่อนไหวของเหล่าสัตว์ คุณอาจจะคิดว่าตัวเองอยู่แอฟริกาก็เป็นได้!

Tips: จะเที่ยวเป็น One day trip ก็ได้ หรืออยากสัมผัสธรรมชาติให้เน้นๆ จะนอนค้างสักคืนก็ไม่ว่ากัน ทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรีมีบ้านพักให้บริการ 3 หลัง และพื้นที่กางเต้นท์ไว้รองรับสายแข็งค่ะ

ติดตามราศีต่อไปในบทความหน้า >> ราศีธนู
Writer: เอ็มดับเบิลโอเค

Credit Picture: Huahinplaces, ORIENTAL ESCAPE, 77Kaoded, อุทยานแห่งชาติกุยบุรี – Kui Buri National Park, Pantip

Reference:
www.astrologyzone.com/horoscopes
lifestyle.campus-star.com/horoscope
huahin.town/activities
huahinplaces.com/listing
www.facebook.com/kuiburinp.thailand