Where to go?
ไปไหนดี
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอพลิเคชั่นต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ คือหนึ่งช่องทางเปิดโลก หลายสิ่งหลายอย่างที่เราเห็นอยู่ทุกวันและมองข้ามไป อาจมีใครหลายคนกำลังมองในมุมน่าสนใจอยู่ก็เป็นได้ บทความนี้ขอพาทุกก่านสวมเลนส์กล้องตัวใหม่ มองภาพที่เราอาจคุ้นเคยแต่ไม่ได้ให้ความสนใจ ให้เปลี่ยนไปแบบต้องร้องว้าววว!
สวมเลนส์แล้วใช่ไหมคะ งั้นเริ่มเดินทางกันเลย!
อ๊ะๆ ก่อนจะออกเดินทางนั้นเราก็ต้องหาแผนที่ดีๆ ซะก่อน แล้วแผนที่นี้ก็มีอยู่ติดตัวทุกท่านเลยล่ะค่ะ
ลองเปิดกระเป๋าสตางค์สิคะ แล้วหยิบเหรียญกลมๆ ในกระเป๋าขึ้นมา… กระเป๋าคุณรีดเดอร์นั่นแหละค่ะ กระเป๋านักเขียนแห้งกรอบมาก ไม่มีสักเหรียญเลย 555+
เห็นใช่ไหมคะ… 1 บาท 5 บาท 10 บาท
ใช่เลยค่ะ สามเหรียญนี้คือแผนที่เที่ยวในครั้งนี้ล่ะ
ก่อนอื่นต้องขอยกเครดิตความคิดสร้างสรรค์ให้กับเพจ Cutchapchap ที่บังเอิญเปิดเจอในเฟสบุ๊ค ทำให้เห็นภาพน่าสนใจเลยอยากหยิบยกมานำเสนอค่ะ ซึ่งมันก็เข้ากั๊นเข้ากันกับบทความท่องเที่ยวของเรา
มาค่ะ… มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท เราไปเริ่มกันที่เหรียญ 1 บาท กันก่อนเล้ยยย
บาทเดียวก็เที่ยวได้นะรู้ยัง!
เหรียญ 1 บาท
สถานที่ซึ่งปรากฏอยู่บนเหรียญบาท ก็คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่คุ้นหูคนไทยก็คือ วัดพระแก้ว หรือต่างชาติเรียกเก๋ๆ ว่า The temple of Emerald Buddha นั่นเองค่ะ
ในส่วนของประวัติความสำคัญและความเป็นมานั้น เชื่อว่าหลายๆ ท่านสามารถหาได้จากแหล่งข้อมูลมากมายเชียวล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นบทความนี้จึงขอโฟกัสไปที่ไฮไลท์ไม่ควรพลาดยามไปเยี่ยมเยือนดีกว่า
Don’t’ Miss!
พระอุโบสถ…. จะพลาดชมจุดไหนก็ได้ แต่พลาดที่นี่ไม่ได้ค่ะ!
พระอุโบสถประดิษฐานไว้ซึ่ง ‘พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร’ หรือที่เราเรียกกันว่า ‘พระแก้วมรกต’ ซึ่งก็ตรงตามชื่อเลยค่ะ พระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักขึ้นจากหินสีเขียวทึบชิ้นเดียว เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของคนไทย องค์พระแก้วสวมเครื่องทรงตามฤดูกาล โดยจะเปลี่ยนเครื่องทรงในช่วงฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ตามเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละปี
หมอชีวกโกมารภัจจ์
หมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นหมอที่ถวายการรักษาพระพุทธเจ้า ซึ่งคนไทยได้ยกย่องให้เป็นบิดาการแพทย์แผนโบราณ ด้านหน้าของปู่ฤษีจะเป็นหินบดยา คนส่วนมากนิยมไปกราบขอพรเรื่องสุขภาพ ให้สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
พระระเบียงและจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์
หากใครเคยไปเยี่ยมเยียนวัดพระแก้ว คงจะคุ้นตากับระเบียงทอดยาวล้อมรอบปูชนียสถานไว้ใช่ไหมคะ นี่ล่ะค่ะนับว่าเป็นไฮไลท์ไม่ควรพลาดเลย จิตกรรมฝาผนังภายในพระระเบียงนี้เป็นเรื่องรามเกียรติ์ เขียนด้วยสีฝุ่น ซึ่งมีภาพทั้งหมดถึง 178 ห้องภาพ เชียวนะคะ ใครที่ชื่นชอบศิลปะหรือสายอาร์ตคือไปเดินยาวๆ ได้เลยค่ะ เพราะห้องแรกเริ่มต้นที่ด้านหน้าพระวิหารยอด ไล่ทางขวาไปเรื่อยๆ ตามลำดับภาพจนครบสี่ด้านวนครบรอบเลยทีเดียวค่ะ
เหรียญ 5 บาท
The Marble Temple ในชื่อที่ชาวต่างชาติรู้จัก หรือก็คือ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร ที่เราคุ้นเคยกันดี วัดเบญฯ แห่งนี้คือสถานที่ซึ่งปรากฏอยู่บนแผนที่ชิ้นที่ 2 บนเหรียญ 5 บาทนั่นเองค่ะ
สมกับที่เรียกขานว่า Marble Temple เลยค่ะ เพราะนี่คือหนึ่งในวัดที่มีพระอุโบสถที่ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี… ตัวหินอ่อนจากเมืองเยนัวและหินอ่อนจากเมืองคาร์รารา ที่ถือว่าเป็นเมืองที่มีหินอ่อนมากและดีที่สุด!
ด้านในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราช ซึ่งจำลองมาจากองค์จริงที่วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลกอีกด้วย
เหรียญ 5 ที่เรามองผ่านๆ นั้น แท้จริงมีอะไรอยู่ในนั้นด้วยน้า…
เบญจ/ เบญจะ แปลว่า 5 นอกจากใช้เป็นไอคอนของเหรียญ 5 แล้ว ในสมัยรัชกาลที่ 4 ยังทรงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดเบญจบพิตร” หมายถึงวัดของเจ้านาย 5 พระองค์ ต่อมาในรัชกาลที่ 5 ได้สถาปนาและพระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดเบญจมบพิตร” หมายถึงวัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดว่าวัดเบญฯ แห่งนี้คือวัดประจำรัชกาลที่ 5 ซึ่งไม่ใช่นะคะ จริงๆ แล้ววัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามต่างหากที่เป็นวัดประจำรัชกาล
ดูเหมือนเหรียญ 5 นี้จะมีความหมายซ่อนเร้นอยู่มากทีเดียวเชียวล่ะค่ะ
เหรียญ 10 บาท
ถัดมาที่แผนที่สุดท้ายในกระเป๋าสตางค์ 555+
เหรียญสิบที่เราใช้อยู่นั้น เชื่อว่าทุกคนเห็นภาพปุ๊บต้องร้องอ๋อ บอกได้ทันทีว่าสถานที่นั้นคือ วัดอรุณ!
วัดมะกอก วัดแจ้ง วัดอรุณราชธาราม วัดอรุณราชวราราม… ชื่อทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นชื่อเรียกของสถานที่เดียวกันค่ะ เปลี่ยนกันไปตามยุคสมัยไล่มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาโน้นนน
เป็นวัดที่มีมาแต่โบราณ เก่าแก่ทรงคุณค่าจริงๆ ค่ะ
ไฮไลท์ของวัดอรุณแห่งนี้อยู่ที่พระปรางค์ใหญ่ ซึ่งเป็นศิลปกรรมที่งดงามโดดเด่น บนพระปรางค์ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน รายล้อมด้วยพระปรางค์เล็ก 4 องค์ รอบ 4 ทิศ ซุ้ม 4 ซุ้ม…. อื้อหือ อลังการงานสร้างเชียวล่ะค่ะ
นอกจากนี้ตัววัดยังตั้งเด่นเป็นสง่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา คงความสง่าและงดงามทางสถาปัตยกรรมอันประเมินค่าไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด วัดอรุณแห่งนี้สมกับชื่อ Temple of Dawn ที่ชาวต่างชาติเรียกจริงๆ ค่ะ บรรยากาศยามพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ ส่องแสงที่ส้มอมทองผ่านทางตัววัดนั้น ทำให้วัดอรุณแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คอันขึ้นชื่อของประเทศไทย
Writer : เอ็มดับเบิลโอเค
Credit Picture : FB_Cutchapchap,
Reference :
www.facebook.com/cutchapchap.official
www.royalgrandpalace.th
thailandtourismdirectory.go.th